ต้นทุ นการกำจั ดขย ะสูงขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า การระ บ าดของCV19 ในประเทศที่ยังไม่คลี่คล าย และยังคงพบจำนวนผู้ติดเชื้ อ

ร ายใหม่ต่อวันสูง ส่งผลให้ค าดว่า ปริม าณขยะติ ดเชื้ อหรือมูลฝอยติ ดเชื้ อในช่วงที่เหลือของปี 2564

น่าจะยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต ามตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้ อที่เพิ่มขึ้น โดยค าดว่า ทั้งปี 2564 ขยะติดเชื้ อน่าจะอยู่ที่

ประม าณ 61.3 ล้ านกิโลกรัม เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงปกติที่ไม่มีการระ บ าดของCVในปี 2562

ทั้งนี้ปริม าณขยะติดเชื้ อในไทย ส่วนใหญ่ม าจากกลุ่มสถ านบริการทางการแพทย์ทั้งรั ฐและเอกช น

และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต ามจำนวนผู้ป่วยทั้งไทยและต่ างประเทศ รวมถึงการเข้าสู่สังค มสูงอายุที่มีความเสี่ ยง

ต่อการเจ็บป่วยที่เพิ่มขึ้น และปัญ หาฝุ่นละออง PM2.5 ทำให้ประชาช นหันม าใส่ใจป้องกันดูแลสุขภาพ

ของภาคครัวเรือนม ากขึ้น เช่ น ใช้หน้ากากอนามัย ดังนั้น จึงจะมีผลให้ต้นทุนการจัดการขยะติ ดเชื้ อปี 2564

จะไม่ต่ำกว่า 920 ล้ านบ าท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ต้นทุนในการบริหารจัดการขยะติ ดเชื้ อที่เพิ่มสูงขึ้นนี้

ถือเป็นต้นทุนที่หลีกเลี่ ยงไม่ได้ แต่มองอีกมุมหนึ่ง ต้นทุนจากขยะติดเชื้ อที่เพิ่มขึ้นบ างส่วน ม าจากการป้องกัน

ดูแลสุขภาพของประชาช นที่ระมัดระวังขึ้น ก็อาจจะช่วยลดค่ าเสี ยโอกาสจากการเจ็บป่วยของโรคได้บ้ าง

ในระยะข้างหน้า จากสถานการณ์CV19 ที่ยังไม่แน่นอน ประกอบกับการใส่ใจดูแลสุขภาพที่ม ากขึ้น

ของประชาช น รวมถึงความเสี่ ยงในการเจ็ บป่ วยที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่สังค มสูงอายุอย่ างสมบูรณ์

และความเสี่ ยงอื่นๆ เช่ น ฝุ่นละออง PM2.5 หรือ การเกิ ดโร คอุบั ติใหม่ๆ ที่อาจจะก่อให้เกิ ดปริม าณขยะติดเชื้ อ

เพิ่มขึ้น จึงอาจส่งผลต่อความไม่แน่นอนของต้นทุนในการบริหารจัดการขยะติ ดเชื้ อที่เพิ่มขึ้นในอนาค ต

ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครั ฐ เอกช น และประชาช น ควรตระหนักถึงแนวทางการรับมือ

และจัดการขยะเหล่ านี้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นปริม าณเต าเผาหรือโรงกำจัดขยะติดเชื้ อ รวมถึงการรณรงค์

หรือให้ความรู้และวิธีการในการคั ดแยกขยะติดเชื้ อที่ถูกวิธีแก่ประชาช น และอาจต้องจัดเตรียมถังขยะ

สำหรับทิ้งหน้ากากอนามัย และขยะติดเชื้ อประเภทอื่นๆ โดยเฉพ าะในจุดสำคัญต่ างๆ เพิ่มขึ้น

เพื่อให้ง่ายต่อก ารทิ้งและคัดแย กขยะม าทำล าย

ขอบคุณข้อมูล thansettakij