1. ย าล้ างแผ ล (Hydrogen peroxide)
ช่วยกำจัดเชื้ อโร คและคร าบเหลืองบนเสื้อผ้า ย าล้ างแ ผลไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 1 ส่วน
ผสมกับน้ำเปล่ า 1 นำมาป้ายบนคร าบเหลือง ทิ้งไว้ 30 นาที
แล้วนำไปซักทำความสะอาดแบบปกติ แต่ข้อแม้ ย าล้ างแผ ลไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ควรใช้กับผ้าขาวเท่านั้น
2. น้ำส้มสายชู
ตัวช่วยยอดฮิต กำจัดสารพัดคร าบ ใช้ น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด ½ ถ้วยตวง
ป้ายลงบนคร าบเหลือง ทิ้งไว้ 30 นาที ก่อนนำไปซักตามปกติ วิธีนี้ใช้ได้ทั้ง ผ้าสี และ ผ้าขาว
3. เกลือ
วัตถุดิบในครัวที่หาง่าย นำเกลือผสมน้ำสะอาดเล็กน้อย แล้วใช้ฟองน้ำแตะเกลือที่เตรียมไว้
ป้ายลงบนรอยคร าบสกปรก ค่อย ๆ ใช้ฟองน้ำเช็ดจนคร าบสกปรกจางลง แล้วจึงนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ
4. แชมพู หรือ น้ำย าล้ างจาน
เลือกใช้ตามสะดวก แค่นำมาป้ายลงบนคร าบสกปรก ทิ้งไว้ 30 นาที
จากนั้นใช้แปรงสีฟันเก่าชุบน้ำพอหมาด ๆ นำมาปัดซ้ำลงไปตรงรอยเปื้อนจนผ้าสะอาดขึ้น แล้วจึงนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ
5. เบกกิ้งโซดา
ควรมีติดบ้ าน ด้วยประโยช น์หล ากหล าย โดยผสม เบกกิ้งโซดา
กับน้ำสะอาดเล็กน้อยให้เป็นเนื้อข้น ๆ จากนั้นนำมาป้ายลงบนคร าบสกปรก
ขยี้เบ า ๆ จนคร าบหลุดออกไป แล้วจึงนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ
6. วอดก้า
หล ายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า วอดก้า ใช้กำจัดคร าบสกปรกจากเสื้อผ้าสีเข้มได้ดี
โดยการเท วอดก้า ลงไปตรงคร าบ แล้วรอดูการเปลี่ยนแปลงของคร าบ
ทิ้งไว้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง คร าบเหงื่อ คร าบสกปรกต่าง ๆ ก็จะหลุดออกไป
7. ย าแอสไพริน (Aspirin)
นอกจากจะรักษาโรคแล้ว ย าแอสไพริน ยังช่วยกำจัดกลิ่นเหงื่อติดเสื้อได้ดีอีกด้วย
โดยการนำย ามาบดให้ละเอียด แล้วนำไปโรยบนเสื้อผ้าบริเวณที่มีกลิ่นและคร าบ
เช่ น ใต้แขนเสื้อ หรือคอเสื้อ จากนั้นผสมน้ำเล็กน้อยคนให้เข้ากัน
8. น้ำย าบ้วนปาก
ของใช้ใกล้ตัว ช่วยเรื่องกลิ่นเหงื่อใต้วงแขนได้ดี โดยนำน้ำย าบ้วนปากเทร าดบนเสื้อผ้าบริเวณที่มีกลิ่นเหงื่อ
เป็นจำนวนหล าย ๆ ฝา ตามความเหมาะสม ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วจึงนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ กลิ่นเหงื่อหายเกลี้ยงแน่นอน
9. น้ำร้อนเดือด
สำหรับคร าบเลอะน้ำมันพืช หรือน้ำผลไม้ น้ำร้อนเดือด ๆ ช่วยขจัดคร าบได้
โดยนำผ้าที่เปื้อนไปขึงให้ตึงบนปากกะละมัง เทน้ำเดือดลงบนรอยเปื้อน
แล้วจึงนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ เป็นวิธีที่สะดวก และได้ผลลัพธ์ดี
10. น้ำย าล้ างเล็บ
คร าบรอยเปื้อนจางลงได้ โดยวางผ้าที่มีรอยเปื้อนลงบนกระดาษทิชชู่ 2-3 แผ่น
หยดน้ำย าล้ างเล็บลงไป ค่อย ๆ ซับจนรอยเปื้อนจางลง วิธีนี้ใช้ได้ดีกับ
ผ้าคอตตอนม ผ้าลินิน, ผ้าไหม, เดนิม และผ้าแทบทุกช นิด